เทียบประวัติ 6 ความแตกต่างของ 2 สายพันธุ์ปลาดิบ ที่ได้รับความนิยมสูงงงงง สุด.. ในประเทศไทย Bluefin Tuna vs Salmon ตั้งแต่ต้นกำเนิดแหล่งนำเข้า คุณภาพราคา จนถึงมือผู้บริโภค จะมีอะไรอีกบ้าง ที่ทำให้คุณเลือกทานปลาดิบได้แบบ ถูกปาก ถูกใจ มาดูกัน!!

..... แน่นอนขึ้นชื่อว่าประเทศญี่ปุ่นแดนปลาดิบ เลื่องลือที่สุดต้องปลา Bluefin Tuna เป็นแหล่งคัดคุณภาพที่ดีสุด มีการประมูลกันเป็นประจำทุกเช้ามืด และประมูลใหญ่ประจำปี เป็นที่น่าจับตามองและน่าดึงดูด จึงทำให้ประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นแหล่งที่โด่งดังเรื่องการส่งออกปลาดิบคุณภาพดี อันดับต้นๆ ของโลก
..... ส่วนปลาแซลมอนที่หลายคนโปรดปรานส่วนใหญ่บ้างคนคิดว่ามาจากญี่ปุ่น แต่แท้ที่จริงแล้วในประเทศญี่ปุ่นก็มีอยู่เช่นกัน แต่จะเลี้ยงไว้สำหรับบริโภคภายในประเทศ ซึ่งที่นำเข้ามาจริงๆ 90% จะเป็นปลาแซลมอนฟาร์ม สายพันธ์ Atlantic salmon จากประเทศนอร์เวย์ แหล่งเพาะเลี้ยงเพื่อส่งออกมายังอาเซียนเป็นอันดับ 1

Quantity Salmon vs Quality Bluefin Tuna
..... Quantity Salmon ยอดส่งพุ่ง แต่คุณภาพไม่พุ่งตาม ความแตกต่างที่เห็นได้ชัด ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนส่วนใหญ่จะเจอกับเมนูปลาแซลมอน ก็เพราะว่าปลา Salmon มีการนำเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งมากถึง 29,000 เมตริตันเพียงแค่ครึ่งปี ในจำนวนนี้ก็จะมีการแบ่งเกรดไปตามระดับ ทั้งแบบสดจำหน่ายร้านอาหารเกรดดีๆ ก็มี Frozen ก็เยอะ เดินตลาดสดคุณก็สามารถซื้อได้
..... ซึ่งต่างจากเนื้อปลาBluefin Tuna ที่คัดสรรปลาที่มีคุณภาพมาประมูลเพื่อคัดเกรดที่ดีที่สุด จากการประมูลประจำปี 2019 ล่าสุดทุบสถิติตัวละเกือบ 100 ล้านบาท นำเข้าและหาทานได้ตามร้านOmakase หรือร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำ หรือตาม Super Market เท่านั้น แต่ถ้าดูไม่ดี ไม่ทันได้สังเกตก็อาจจะเจอกับ Yellowfin Tuna ได้เช่นกัน

..... คุณภาพของเนื้อปลา Bluefin Tuna จะแบ่งออกเป็นเกรดสดประมูลที่มาจากตลาดToyosu Fish Market ส่วนใหญ่ร้านอาหารญี่ปุ่นดังๆ Omakase, Michelin Starจะเลือกใช้ ส่วนเกรดFrozen นั่นเนื้อปลาจะถูกตัดแต่งเป็นชิ้นเพื่อให้ง่ายต่อการนำมาทาน ตอบโจทย์ลูกค้าทางบ้าน ซึ่ง 2 เกรดนี้สามารถทานดิบได้ทั้งคู่ คุณภาพของปลาBluefin Tuna สามารถอ่านต่อได้ที่นี่เลย https://www.noblemono.com/blogs/news/bluefin-tuna-story
..... ส่วนคุณภาพของเนื้อปลาแซลมอนนั้นจะแบ่งออกเป็น แซลมอนสดที่นำเข้ามาเป็นตัว เพื่อนำมาแล่เองจัดจำหน่ายภายในร้านอาหารญี่ปุ่น หรือร้านอาหารทั่วไปที่มีเมนูแซลมอน บ้างก็ใช้แบบสด หรืออาจจะเป็นFrozen ส่วนแซลมอนที่เห็นตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป เช่นห้างใหญ่ค้าส่ง ซึ่งจะแยกออกเป็น 2 เกรด อีกเช่นกัน คือเกรดที่สามารนำไปทานสดซาซิมิซูชิได้ และเกรดที่เหมาะสำหรับนำไปทำสเต็กนั้นเอง

.....เนื้อปลาBluefin Tuna จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักที่ให้ความอร่อยที่แตกต่างกัน นั่นคือ Akami เนื้อแดงอร่อยแน่น เข้มข้น ไร้ไขมัน Chutoro เนื้อส่วนที่อยู่ติดกับท้อง จะให้ความนุ่มและแน่น หวานมันกำลังดี ส่วนOtoro เนื้อส่วนท้องที่มีไขมันแทรกละลายปาก จะให้ความหวานนุ่มลื่นที่สุด
..... ส่วนรสชาติของ Norwegian Salmon ที่หาทานง่าย และนำเข้ามาจำนวนเยอะ คุณภาพเนื้อที่ได้จะแน่น มีสีส้มนวล มีไขมันที่สม่ำเสมอ ส่วนท้องมีมันเยอะ บางคนชอบ บางคนเลี่ยน ซึ่งจะทำให้รสชาติของเนื้อปลาไม่ค่อยหลากหลายมากซักเท่าไหร่

..... สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเนื้อปลา Bluefin Tuna และ Salmon แน่นอนว่านี้คือเนื้อปลาที่มีไขมันแทรกมากกว่าเนื้อปลาชนิดอื่นๆ ที่ให้ความอร่อยแอบผสมไขมัน แต่เมื่อนำมาเทียบวัดความ Healty กันแล้วปลาแซลมอนจะมีไขมันที่ สูงมากถึง 5.41 กรัม ส่วนเนื้อปลาบลูฟินทูน่า มีไขมันที่ต่ำแค่ 0.12 กรัม ต่อ ขนาดปลา 120 กรัม เท่าๆ กัน ทานปลาเค้าว่าดีต่อสุขภาพ แต่ถ้าอยากคุมน้ำหนัก ลดความอ้วน ต้องเลือกปลาที่มีไขมันต่ำ
Bluefin Tuna - Akami Saku เนื้อแดงเข้มข้น อร่อยง่ายไร้ไขมัน แคลลอรี่ต่ำ ให้พลังงานสูง หั่นเต๋ามาพร้อมทาน ในราคาหลักร้อย บรรจุใส่ถุงขนาด 120g
เริ่มราคากิโลกรัมละ 765 บาท
จากราคาปกติ 1,200 บาท